Nexus S กลับ Stock ROM

สำหรับสาวก Pure Google ที่หันไปเล่น Custom ROM จนเบื่อแล้วและอยากจะกลับไปใช้ Stock ROM อีกครั้ง ต่อแต่นี้ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไปแล้ว หลังการทาง Google เองได้ปล่อย Factory Images for Nexus Devices ออกมา ดังนั้นบทความนี้จึงนำเสนอขั้นตอนการแฟลช Factory Image ของ Nexus S โดยที่ Nexus S ของท่านต้องผ่านการปลดล็อค Bootloader มาก่อนแล้วเท่านั้น

ขั้นตอนการแฟลชกลับ Stock ROM มีดังนี้

1. ดาวน์โหลดไฟล์ crespo.zip [ CLICK HERE ] สำหรับ Nexus S แล้วแตกไฟล์และนำโฟลเดอร์ชื่อ crespo ที่ได้ไปเก็บไว้ที่ไดร์ C:/ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนชื่อหรือเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น

2. ดาวน์โหลด Factory Images สำหรับ Nexus S แล้วแตกไฟล์เหมือนปกติทั่วไป

• Nexus S (900MHz version, i9020t and i9023)
• 2.3.6 (GRK39F)
• 4.0.4 (IMM76D)
• 4.1.2 (JZO54K)
• Nexus S (850MHz version, i9020a)
• 2.3.6 (GRK39F)
• 4.0.4 (IMM76D)
• 4.1.2 (JZO54K)

3.  ก็อปปี้ (Copy) ไฟล์ที่ได้ในข้อ 2 ไปเก็บไว้ที่โฟลเดอร์ crespo ซึ่งเราเก็บไว้ไดร์ C:/ ในขั้นตอนก่อนหน้านี้ โดยจะประกอบไปด้วย 5 ไฟล์ ดังนี้

• flash-all.sh
• flash-base.sh
• bootloader-crespo-XXX.img
• image-XXX-XXX.zip
• radio-crespo-XXX.img

4. ปิดเครื่อง Nexus S แล้วบูทเข้าสู่ Fastboot Mode ด้วยการกดปุ่ม Volume UP + Power โดยกดพร้อมกันทั้ง 2 ปุ่ม เสร็จแล้วเชื่อมต่อ Nexus S เข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย usb cable เหมือนปกติทั่วไป

5. เปิด Command Prompt ขึ้นมาด้วยการกดปุ่ม Windows บนคีย์บอร์ดพร้อมกับกดปุ่ม R (Windows+R) และพิมพ์ "cmd" เสร็จแล้วคลิกเลือก OK หรือจะกด Enter ก็ได้

6. เมื่อหน้าต่าง Command Prompt แสดงขึ้นมา ให้พิมพ์ cd.. แล้ว Enter พิมพ์ cd.. แล้ว Enter ทำแบบนี้เรื่อยๆ จนกว่าจะเหลือ C:> ดังภาพด้านล่าง แล้วค่อยพิมพ์ cd เว้นวรรคตามด้วยชื่อโฟลเดอร์ crespo ที่เราเก็บโฟลเดอร์ไว้ ในที่นี้พิมพ์
[+] cd crespo แล้ว Enter

และตามด้วยคำสั่งต่างๆ ดังนี้
[+] fastboot reboot-bootloader แล้ว Enter
[+] fastboot erase cache แล้ว Enter
[+] fastboot reboot-bootloader แล้ว Enter
[+] fastboot erase userdata แล้ว Enter
[+] fastboot reboot-bootloader แล้ว Enter
[+] fastboot flash bootloader bootloader-crespo-XXX.img แล้ว Enter
[+] fastboot reboot-bootloader แล้ว Enter
[+] fastboot flash radio radio-crespo-XXX.img แล้ว Enter
[+] fastboot reboot-bootloader แล้ว Enter
[+] fastboot -w update image-XXX-XXX.zip แล้ว Enter

รอจนกว่าระบบจะทำการติดตั้งรอมเสร็จ ห้ามถอยสาย USB ออก และห้ามไฟดับเด็ดขาด เมื่อระบบทำการติดตั้งรอมเสร็จเรียบร้อย Nexus S จะรีสตาร์ทเองอัตโนมัติ ถ้าเครื่องรีสตาร์ทไม่ผ่านหรือนานผิดปกติให้ปิดเครื่องโดยกดปุ่ม Power ค้างไว้จนกว่าเครื่องจะปิด แล้วค่อยรีสตาร์ทเครื่องใหม่

เรียบร้อย...แค่นี้ Nexus S เราก็กลับไปใช้ Stock ROM จาก Google โดยสมบูรณ์แบบแล้ว

หมายเหตุ: ติดขัดขั้นตอนไหน สามารถ Google+ Hangouts สอบถามเพิ่มเติมได้ สำหรับขั้นตอนการติดตั้งดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั้ง Windows 8/Windows 7/Vista/XP

Read More

ลง Apps Non-Market

สำหรับการลง Apps ที่ไม่ได้อยู่ใน Market บางคนอาจจะรู้แล้ว บางคนอาจจะยังไม่รู้ Apps ที่ไม่ได้อยู่ใน Market พูดง่ายๆ มันก็คือแอปเถื่อนนั่นเอง โดยจะมีให้ดาวน์โหลดในรูปแบบไฟล์ .apk ขอออกตัวก่อนนะครับ ผู้เขียนไม่ได้สนับสนุนให้ผู้ใช้หันมาลงแอปเถื่อนนะครับ แค่เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทดลองใช้งานแอปนั้นจริงๆ ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อแอปนั้นผ่าน Market ไม่พูดพร่ำทำเพลง เริ่มปฏิบัติการเลยละกัน

1. หาดาวน์โหลดแอป .apk มาเก็บไว้ใน sdcard วิธีการค้นหาก็ง่ายๆ เปิด Google ขึ้นมา แล้วพิมพ์ชื่อแอปที่ต้องการค้นหา เว้นวรรค ตามด้วย apk แค่นี้ท่านก็จะเจอแล้วครับ ตัวอย่างนี้ผมโหลด Quickoffice Pro.apk มาเก็บไว้ใน sdcard เรียบร้อย

2. เซตค่าเพื่อให้ Android ยอมให้เราลง Apps non-market ก่อน โดยไปที่ System setting แล้วเลือก Security แล้วคลิกเลือก Unknown sources ดังภาพด้านล่างครับ

 3. ติดตั้งแอปที่จะช่วยในการติดตั้งแอป .apk ของเราลงในโทรศัพท์ก่อน ในที่นี้มีหลายตัวให้เลือกครับ แต่ส่วนตัวชอบแอปที่ชื่อ AppInstaller ที่สุดครับ

 4. เปิดแอป AppInstaller ขึ้นมา แล้วเลือกไปที่โฟเดอร์ที่เราเก็บแอป .apk ไว้

 5. คลิกเลือกที่แอป .apk ที่เราจะติดตั้ง แล้วคลิก Install

 6. เริ่มติดตั้งแอป .apk ให้เราแล้ว

 7. เสร็จขั้นตอนการติดตั้งแอป .apk ให้คลิกเลือก Done หรือจะคลิกเลือก Open เพื่อนเปิดใช้งานแอปที่เราเพิ่งติดตั้งไป

 8. เรียบร้อยครับ หลังจากที่ทดลองใช้งานจนพอใจ อย่าลืมซื้อแอปจริงผ่าน Market นะครับ เพื่อเป็นการสนับสนุน Dev เขาจะได้มีทุนพัฒนาแอปใหม่ๆ ออกมาให้เราใช้ครับ :)

Read More

Apps: Titanium Backup

สำหรับคนที่เปลี่ยนรอมบ่อยๆ ชอบลองโน่นลองนี่ คงจะปวดตับไม่น้อยกับการต้องมาเข้า Market เพื่อค้นหา Apps ที่เคยใช้หลังจาก flash รอมใหม่ทุกครั้ง และต้องหาไปลงไปทีละตัว บางครั้งก็ได้แอปกลับมาเท่าเดิม บางครั้งแอปที่เคยใช้ก็ลืมไปโดยไม่รู้ตัว ปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือหลังจากที่ลงแอปเสร็จต้องมาเซตค่าต่างๆ ให้กลับไปเหมือนเดิม ถ้าจำได้ก็รอดตัวไป แต่ส่วนใหญ่แทบจะจำไม่ได้ว่าเราเซตค่าอะไรไปบ้าง ข้อมูลต่างๆ ที่เราเคยบันทึกไว้หรือคะแนนจากเกมส์ที่เราเคยเล่นไว้ก็หายไปหมด ต้องกลับมาเริ่มใหม่หมด ปัญหาทั้งหลายที่กล่าวมาข้างต้นนี้ App ที่ชื่อว่า "Titanium Backup" สามารถช่วยท่านได้ แต่ท่านต้อง Root เและลง Superuser ก่อนนะครับ...

วีธีใช้ก็ไม่ยากอย่างที่คิด เริ่มเลยละกัน...

1. ติดตั้ง Apps จาก Android Market

2. เปิดแอปขึ้นมาครั้งแรก Superuser ก็จะถามสิทธิ์เราทันที ให้คลิกเลือก Allow

3. เข้าสู่หน้าต่าง Welcome ลองอ่านสักนิด แล้วคลิก OK

4. เข้าสู่หน้าต่าง Change Log หน้านี้ไม่ต้องอ่านก็ได้ เยอะเกิ๊น 555+

5. แล้วเราก็เข้าสู่หน้าหลักของ Titanium Backup

6. ลองคลิกเลือก Backup/Restore ก็จะพบคำอธิบายเล็กๆน้อย อ่านเสร็จแล้วให้คลิกเลือก Dismiss

7. เริ่มรัน Titanium เพื่อ Backups ข้อมูลก่อนเลย โดยเลือก Schedules แล้วคลิกเลือกที่หน้าช่อง Enabled หลัง Redo backups for modified data เสร็จแล้วให้คลิก RUN

8. ถัดมาคลิกเลือกที่หน้าช่อง Enabled หลัง Backup all new app & newer versions เสร็จแล้วให้คลิก RUN เป็นอันเสร็จขั้นตอนการ Backups

9. หลังจากที่เรา flash รอมใหม่เสร็จ เราจะ Restore Apps+Data ได้อย่างไร เปิด Titanium Backup ขึ้นมา แล้วเลือกหมวด Backup/Restore ก็จะแสดง Apps ทั้งหมดที่เราเคยลงไว้ก่อนหน้า

10. จากตัวอย่างจะ Restore Fruit Slice ให้คลิกเลือกที่ Fruit Slice ก็จะแสดงหน้าต่าง Restore ขึ้นมา ให้คลิกเลือกที่ Restore

11. Titanium ก็จะถามเราว่าจะ Restore เฉพาะ App หรือจะ Restore ทั้ง App+Data ในที่นี้ผมเลือก App+Data เพราะผมต้องการกู้ข้อมูลต่างๆ คืนมาหมด

12. เสร็จขั้นตอนการ Restore Fruit Slice ก็จะเห็นว่ามีรูปโทรศัพท์อยู่ด้านหลัง App เราแล้ว (Restore ได้ทีละ App นะครับ)

13. ถ้าจะลบ App ทิ้งก็ให้คลิกเลือกที่ App นั้นๆ แล้วคลิกเลือกที่ Delete

14. หลังจาก Delete หมดสิทธิ์ที่จะ Restore นะครับ

Enjoy with Titanium Backup ครับผม

Read More

Root Nexus S

คำเตือน...ก่อนปฏิบัติการณ์ ท่านควรเก็บสำรองข้อมูลต่างๆ ไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นรายชื่อบนสมุดโทรศัพท์ ข้อความ SMS MMS ตารางนัดหมายต่างๆ บนปฏิทิน เพราะขั้นตอนที่จะทำต่อไปนี้อาจจะทำให้ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นหายไปโดยไม่ สามารถจะเก็บกู้คืนมาได้ และตัวผู้เขียนจะไม่รับผิดชอบต่อกรณีใดๆ ทั้งสิ้น ในกรณีที่เครื่องของผู้อ่านเกิดขัดข้องอันเนื่องมาจากการทำของตัวท่านเอง ส่วนตัวผู้เขียนให้ได้เพียงแต่คำแนะนำเท่านั้น

ขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย คือ ติดตั้ง PdaNet+ for Android และอัพเดต Android Bootloader Interface โดยมีขั้นตอนดังนี้

[+] ติดตั้งไดร์เวอร์ ผ่าน PdaNet+ for Android [ CLICK HERE ]

[+] อัพเดต Android Bootloader Interface [ CLICK HERE ]

[+] ดาวน์โหลดไฟล์ Superuser [ CLICK HERE ] เก็บไว้ใน sdcard ในเครื่อง NexusS ให้เรียบร้อยก่อน

[+] ดาวน์โหลดไฟล์ crespo.zip [ CLICK HERE ] เสร็จแล้วแตกไฟล์ให้เรียบร้อยแล้วนำไปเก็บไว้ที่ไดร์ C:/ จะได้ดังภาพด้านล่าง

[+] เปิด Command Prompt ขึ้นมาด้วยการกดปุ่ม Windows บนคีย์บอร์ดพร้อมกับกดปุ่ม R (Windows+R) และพิมพ์ "cmd" เสร็จแล้วคลิกเลือก OK หรือจะกด Enter ก็ได้

[+] บนหน้าต่างของ command prompt พิมพ์ cd/crespo แล้ว Enter ถัดมาพิมพ์ dir แล้ว Enter ก็จะได้ดังภาพด้านล่าง ถ้าทำบน Windows XP ให้พิมพ์ cd.. แล้ว Enter ทำเรื่อยๆ จนกว่าจะเหลือ C:\> แล้วค่อยพิมพ์ cd/crespo และ Enter ตามลำดับ

[+] ปิดเครื่อง Nexus S แล้วบูทเข้าสู่ Fastboot Mode ด้วยการกดปุ่ม Volume UP + Power พร้อมกันทั้ง 2 ปุ่ม เสร็จแล้วเชื่อมต่อ Nexus S เข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย usb cable เหมือนปกติทั่วไป สังเกตตรง Lock state จะมีสถานะเป็น Locked

[+] พิมพ์คำสั่ง fastboot oem unlock แล้ว Enter ปลดล็อค Bootloader

[+] เมื่อผ่านคำสั่ง fastboot oem unlock ให้กลับไปที่ Nexus S โดยท่านสามารถใช้ปุ่ม Volume เพื่อเลื่อนขึ้นหรือเลื่อนลง เพื่อเลือก Yes Unlock bootloader... แล้วกดปุ่ม Power เพื่อยืนยันการเลือก ว่าเราต้องการปลดล็อค

[+] จุดสังเกตว่าเราปลดล็อคสำเร็จไหมให้ดูตรง Lock state บน Nexus S จะมีสถานะเปลี่ยนเป็น unlocked พร้อมกับตัวอักษรสีแดง เป็นอันเสร็จภารกิจปลดล็อค Bootloader

[+] ติดตั้ง ClockworkMod Recovery ด้วยคำสั่งดังนี้
[+] fastboot flash recovery 5023-cyan.img แล้ว Enter
[+] fastboot reboot-bootloader แล้ว Enter

[+] กดปุ่ม Volume UP  หรือ Volume Down เพื่อเข้าสู่ Recovery แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power เพื่อเข้าสู่เมนูย่อยของ ClockworkMod Recovery

[+] ใช้ปุ่ม Volume Down เลื่อนลงมาที่ mounts and storage แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

[+] ใช้ปุ่ม Volume Down เลื่อนลงมาที่ mount USB storage แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

[+] ก็อปปี้ไฟล์ <filename of Superuser.zip> ลงใน sdcard บน Nexus S

[+] กดเลือก Unmount ด้วยปุ่ม Power เพื่อกลับสู่เมนูก่อนหน้า

[+] เลือก +++++Go Back+++++ แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

[+] ใช้ปุ่ม Volume Down เลื่อนลงมาที่ install zip from sdcard แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

[+] เลือก choose zip from sdcard แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

[+] เลือก <filename of Superuser.zip> แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

[+] เลือก Yes - Install <filename of Superuser.zip> แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

[+] รอจนกว่าจะขึ้น Install from sdcard complete

[+] เลือก +++++Go Back+++++ แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

[+] เลือก reboot system now แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power เป็นเสร็จภารกิจการรูท

ติดตั้ง Custom ROM บน Nexus S
เริ่มด้วยโหลดไฟล์ Custom ROM มาเก็บไว้ในเครื่องก่อน สำหรับสาวกที่ต้องการชิมไอติม ICS 4.0.3 แนะนำรอมโมให้ 2 ค่ายดังนี้
[+] รอม ของนาย Peter Alfonso โดดเด่นที่รักษาความเป็นเอกลักษณ์ของ stock rom แต่โดยรวมแล้วลื่นกว่า stock rom พอสมควร แถมแบตเตอร์รี่ก็อึดกว่าด้วย
[+] รอม จากค่าย DrewGaren รอมโดดเด่นที่ความเร็ว และมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่จากค่าย CM9 เข้ามาด้วย จะทำงานได้ดีเยี่ยมบน Nexus S model GT-I9020A เพราะส่วนใหญ่เขาทดสอบบนโมเดลนี้เท่านั้น

1. ปิดเครื่อง Nexus S แล้วบูทเข้าสู่ Fastboot Mode ด้วยการกดปุ่ม Volume UP + Power พร้อมกันทั้ง 2 ปุ่ม แล้วใช้ปุ่ม Volume Down เลื่อนลงมาเลือก Recovery mode แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power เพื่อเข้าสู่เมนูย่อยของ ClockworkMod Recovery

2. ใช้ปุ่ม Volume Down เลื่อนลงมาที่ wipe data / factory reset แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

3. ใช้ปุ่ม Volume Down เลื่อนลงมาที่ Yes -- delete all user data แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

4. ใช้ปุ่ม Volume Down เลื่อนลงมาที่ wipe cache partition แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

5. ใช้ปุ่ม Volume Down เลื่อนลงมาที่ Yes - Wipe Cache แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

6. ใช้ปุ่ม Volume Down เลื่อนลงมาที่ advanced แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

7. ใช้ปุ่ม Volume Down เลื่อนลงมาที่ wipe dalvik cache แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

8. ใช้ปุ่ม Volume Down เลื่อนลงมาที่ Yes - Wipe Dalvik Cache แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

9. ใช้ปุ่ม Volume Down เลื่อนลงมาที่ +++++Go Back+++++ แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

10. ใช้ปุ่ม Volume Down เลื่อนลงมาที่ install zip from sdcard แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

11. เลือก choose zip from sdcard แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

12. เลือก <filename of rom.zip> แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

13. เลือก Yes - Install <filename of rom.zip> แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power

14. รอจนกว่าจะขึ้น Install from sdcard complete

15. เลือก reboot system now แล้วกดเลือกด้วยปุ่ม Power เป็นเสร็จภารกิจการแฟลชรอมโม

หมายเหตุ: ติดขัดขั้นตอนไหน สามารถ Google+ Hangouts สอบถามเพิ่มเติมได้ สำหรับขั้นตอนการติดตั้งดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั้ง Windows 8/Windows 7/Vista/XP

Read More

อัพเดต Android Bootloader Interface

บทความนี้ประกอบด้วยการติดตั้ง Java SE ติดตั้ง Android SDK อัพเดท Android USB driver และอัพเดท Android Bootloader Interface โดยมีรายละเอียดดังนี้

[+] เริ่มด้วยการติดตั้ง Java SE และ Android SDK [ CLICK HERE ] ในที่นี้ผู้เขียนติดตั้งบน Windows 8 ส่วน Windows 7 หรือ XP ขั้นตอนคงไม่แตกต่างกันมากนัก คล้ายๆ กับการติดตั้งโปรแกรมทั่วไป คือ Next ... จนเสร็จ

ติดตั้ง Android USB driver สำหรับ Windows 7/8

การติดตั้ง Android USB driver ในที่นี้สำหรับ Windows 7 เท่านั้น ส่วน Windows XP ให้ข้ามไปขั้นตอน อัพเดท Android Bootloader Interface สำหรับ Windows XP ได้เลย ส่วน Windows Vista ผมไม่แน่ใจว่าขั้นตอนด้านล่างนี้จะสามารถทำเหมือนกันได้หรือไม่ ลองประยุกต์เองนะครับ

ก่อนจะปฏิบัติการให้ตรวจสอบก่อนว่า Nexus Device ได้เปิดใช้ USB debugging หรือยัง ถ้ายังก็จัดการให้เรียบร้อยก่อนเริ่มขั้นตอนการติดตั้ง โดยให้ไปที่ Settings >>> Developer options >>> เลือก USB debugging ดังภาพด้านล่าง

1. เชื่อมต่อ Nexus Device เข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย usb cable เหมือนปกติทั่วไป

2. คลิกขวาบน Computer จากหน้า Desktop หรือ Windows Explorer แล้วเลือก Manage ดังภาพด้านล่าง

3. จากบล็อคด้านซ้ายให้เลือก Device Manager

4. จากบล็อคด้านขวาให้คลิกที่ Other device

5. คลิกขวาบนชื่อของ Nexus Device หรือชื่อของ device แล้วเลือก Update Driver Software ในกรณีที่ไม่พบ Nexus Device ให้ดาวน์โหลด Samsung driver มาติดตั้ง แล้ว Restart คอมพิวเตอร์ก่อนกลับมาเริ่มขั้นตอนข้างต้นใหม่

6. เลือก Browse my computer for driver software แล้วคลิก Next

7. คลิก Browse แล้วเลือกไปที่โฟเดอร์ของ USB Driver (C:\android-sdk-windows\extras\google\usb_driver\)

8. คลิก Next เพื่อติดตั้ง Driver


อัพเดต Android Bootloader Interface สำหรับ Windows 7/8

1. ปิดเครื่อง (Power off) Nexus Device แล้วบูทเข้าสู่ Fastboot mode ด้วยการกดปุ่ม Volume UP + Volume Down + Power พร้อมกัน (กดพร้อมกันทั้ง 3 ปุ่ม อาจจะติดยากนิดหน่อย) แต่ถ้าเป็น Nexus S ให้กดแค่ 2 ปุ่ม คือ Volume UP + Power เสร็จแล้วเชื่อมต่อ Nexus Device เข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย usb cable เหมือนปกติทั่วไป

2. เปิด Command Prompt ขึ้นมาด้วยการกดปุ่ม Windows บนคีย์บอร์ดพร้อมกับกดปุ่ม R (Windows+R) และพิมพ์ "devmgmt.msc" เสร็จแล้วคลิกเลือก OK หรือจะกด Enter ก็ได้ เพื่อเป็นการเปิดหน้าต่าง Device Manager ขึ้นมา


3. คลิกขวาที่ Android 1.0 แล้วเลือก Update Driver Software... ดังภาพด้านล่าง


4. เลือก Browse my computer for driver software ดังภาพด้านล่าง


5. ให้ Browse ไปที่ "C:\android-sdk-windows\extras\google\usb_driver" (ในภาพด้านล่างจะเป็น SDK เนื่องจากเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์) และคลิกเลือก Include subfolders แล้วคลิก "Let me pick from a list of device drivers on my computer" แล้วคลิก Next


6. คลิกเลือก Android Phone แล้วคลิก Next


7. เลือก Android ADB Interface แล้วคลิก Next


8. จะมี Warning แจ้งเตือนขึ้นมาให้คลิก Yes


9. รอจนกว่าจะเสร็จสิ้นการติดตั้ง แล้วคลิก Close



อัพเดต Android Bootloader Interface สำหรับ Windows XP

สำหรับ Windows XP ขั้นตอนจะแตกต่างกับ Windows 7/8 คือต้องดาวน์โหลด PdaNet for Android มาติดตั้งก่อน ในหว่างการติดตั้งห้ามเชื่อมต่อ Nexus Device กับคอมพิวเตอร์ ขั้นตอนการติดตั้งก็เหมือนกับติดตั้งโปรแกรมทั่วไป

[+] ดาวน์โหลด PdaNet for Android คลิกที่นี่

1. ดาวน์โหลดไฟล์โปรแกรม PdaNet for Android แตกไฟล์และตามด้วยดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ .exe เมื่อหน้าต่างเริ่มการติดตั้งแสดงผลขึ้นมาให้คลิกเลือก Next ตามด้วยเลือก I accept the agreement และ Next Next Next ตามลำดับ พอถึงขั้นตอนดังภาพด้านล่าง ให้เชื่อมต่อ Nexus Device กับคอมพิวเตอร์ ด้วย USB cable แล้วคลิก OK (ก่อนเชื่อมต่อ Nexus Device กับคอมพิวเตอร์ ต้องเปิดใช้งาน USB debugging ก่อนนะครับ)

2. หน้าต่างแสดงการติดตั้ง ขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่นาน ถ้านานผิดปกติให้ทำการติดตั้งใหม่ได้ครับ

3. สุดท้ายคลิก Finish เพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้ง

4. ปิดเครื่อง (Power off) Nexus Device แล้วบูทเข้าสู่ Fastboot mode ด้วยการกดปุ่ม Volume UP + Volume Down + Power พร้อมกัน (กดพร้อมกันทั้ง 3 ปุ่ม อาจจะติดยากนิดหน่อย) แต่ถ้าเป็น Nexus S ให้กดแค่ 2 ปุ่ม คือ Volume UP + Power เสร็จแล้วเชื่อมต่อ Nexus Device เข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย usb cable เหมือนปกติทั่วไป

5. เปิด Command Prompt ขึ้นมาด้วยการกดปุ่ม Windows บนคีย์บอร์ดพร้อมกับกดปุ่ม R (Windows+R) และพิมพ์ "devmgmt.msc" เสร็จแล้วคลิกเลือก OK หรือจะกด Enter ก็ได้ เพื่อเป็นการเปิดหน้าต่าง Device Manager ขึ้นมาดังภาพด้านล่าง

6. คลิกขวาที่ Android 1.0 แล้วเลือก Update Driver Software... ดังภาพด้านล่าง

7. เลือก Install from a list or specific location (Advance) แล้วคลิก Next

8. เลือก Search for the beat driver in these location และคลิกเลือกที่ Include this location in the search แล้วคลิก Browse โดยให้ browse ไปที่ที่เราลง PdaNet ไว้ ในที่นี้จะ browse ไปที่ C:\Program Files\PdaNet for Android\usbwin แล้วคลิก Next ดังภาพด้านล่าง

9. หน้าต่างแสดงระหว่างการติดตั้ง

10. สุดท้ายคลิก Finish เพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้ง

11. ลองทดสอบว่าใช้งานได้แล้วดังภาพด้านล่าง

หมายเหตุ: ติดขัดขั้นตอนไหน สามารถ Google+ Hangouts สอบถามเพิ่มเติมได้ สำหรับขั้นตอนการติดตั้งดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั้ง Windows 8/Windows 7/Vista/XP

Read More